แพ้ยับร่วงยูโร “โคนม” เดนมาร์ก เดินตบเท้าเข้ารอบ 8 ทีมถัดไป ข้างหลัง แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก กดสองลูกก่อนทีมกระหน่ำ “มังกรแดง” 

แพ้ยับร่วงยูโร “โคนม” เดนมาร์ก เดินตบเท้าเข้ารอบ 8 ทีมถัดไป ข้างหลัง แคสเปอร์ดอลเบิร์ก กดสองลูกก่อนทีมกระหน่ำ “มังกรแดง” เวลส์ ที่ช่วงหลัง แฮร์รี่ วิลสัน หน้าแข้งลิเวอร์พูลลงสำรองโดนใบแดงไล่ออก สกอร์ยับ 4-0

รอคอยพบผู้ชนะระหว่าง ฮอลแลนด์ กับ สาธารณรัฐเช็ก ถัดไป สำหรับการชิงชัยศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมท้ายที่สุด คืนวันเสาร์ที่ 26 เดือนมิถุนายนก่อนหน้านี้ สนาม : โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า,อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์)

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 กลุ่มในที่สุด คืนวันเสาร์ที่ 26 เดือนมิถุนายนก่อนหน้านี้ “มังกรแดง” เวลส์ เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เอ โรเบิร์ตส์ เพจ ยังขนสตาร์แนวรุกนำโดย “เบล-แรมซี่ย์” หวังลากป่วนปั่น “โคนม” เดนมาร์ก ซิวรองแชมป์กลุ่มบี

แคสเปอร์ ฮูลมานด์ เกมนี้ไร้ “ยุสซุฟ โพลเซ่น” ตัวจริงมีอีกทั้ง “ดามส์การ์ด-เบรธเวท” ลุ้นเข้ารอบ 8 ทีมให้ได้ทั้งสอง เริ่มครึ่งแรกมา 10 นาทีแรก แกเร็ธ เบล ลากบอลลุยมาถึงหน้ากรอบจุดโทษ แนวรับโคนมถอยหลังกันหมด

กระทั่งสตาร์มังกรแดงซัดบอลติดไซด์ก้อยออกข้างเสาทางด้านซ้าย อีกสี่นาทีถัดมา แกเร็ธ เบล ดีดบอลขอบสนามทางขวาเข้ากึ่งกลาง แอรอน แรมซี่ย์ แตะต้องบอลก่อนยิงโดยทันทีติดบล็อก บอลลอยกระดอนเข้าจุดโทษ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกมารับเอาไว้

ผ่านมานาครั้งที่ 18 แดเนี่ยล เจมส์ ทดลองส่องไกลนอกกรอบบอลเรียดเข้าพบประตู แต่ว่าน้ำหนักค่อยเข้าซองนายทวารเดนส์รับสบาย โคนมออกนำ 1-0 มิคเกล ดามส์การ์ด ลงต่ำมารับบอลก่อนจ่ายฝากให้ แคสเปอร์ดอลเบิร์ก เลี้ยงมาระยะ 20 หลา

แล้วปั่นบอลโค้งเลี้ยวหนีมือ แดนนี่ วอร์ด นายด่านมังกรแดงแทงตาข่ายด้านขวาอย่างงดงาม ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ก่อนยืนยันสกอร์ นาทีที่ 27 ตอนทดเจ็บนาทีที่ 45+1 เยนส์ ลาร์เซ่น ครอสบอลทางขวา ดอลเบิร์กโหม่งต่อบอล กระเด้งมาฝั่งซ้ายในจุดโทษ ผลฟุตบอล

แพ้ยับร่วงยูโร

เวลส์ ที่ช่วงหลัง แฮร์รี่ วิลสัน หน้าแข้งลิเวอร์พูลลงสำรองโดนใบแดงไล่ออก สกอร์ยับ 4-0

แพ้ยับร่วงยูโร มาร์ติน เบรธเวท จับไม่ดีเข้าทาง โยอาคิม เมห์เล่ ยิงตามน้ำติดเซฟนายทวารคู่แข่งขัน หมดครึ่งแรก เดนมาร์ก นำก่อน 1-0 เพียงแค่สามนาทีช่วงหลัง มาร์ติน เบรธเวท กระชากบอลจี้มาด้านขวา

ก่อนปาดบอลเข้าจุดโทษเนโก วิลเลี่ยมส์ เตะสะสางพลาด เข้าทางดอลเบิร์ก กอบโกยช่องทางซัดเต็มเท้าบอลยัดเสาแรกพา เดนมาร์ก หนีเป็น 2-0 โคนมหวิดเฮอีกนาทีที่ 66 มาธิอัส เยนเซ่น สัมผัสบอลหาเหลี่ยมเปิดจากฝั่งซ้าย

บอลโค้งเกือบจะซุกประตูฝั่งขวาเฉียดออกข้างเสาสองนิดหนึ่งเพียงแค่นั้น อีก 11 นาทีถัดมา วัวนมเสียแนวรับคนสำคัญ เมื่อ ซิม่อน เคียร์ มีลักษณะอาการเจ็บจนกระทั่งจะต้องเปลี่ยนแปลงเอา โยอาคิม อันเดอร์บวงสรวง ปราการหลังจากฟูเฉือนมมาคุมเกมรับแทนที่

ไปสู่ช่วงท้ายเกม โยอาคิม เมห์เล่ ไหลบอลออกมาฝั่งขวาในจุดโทษ ก่อน มาร์ติน เบรธเวท ส่งย้อนเข้ากึ่งกลาง ให้ โยอาคิม เมห์เล่ ตามมาชาร์จแม้กระนั้นถูกผู้เล่นมังกรแดงปรี่มาขวางออกข้างหลังทันตามเวลานาทีที่ 83

โคนมปิดเกม 3-0 นาทีที่ 88 โยอาคิม เมห์เล่ รับบอลโยนยาวเข้าจุดโทษทางขวามือ เจ้าตัวล็อกหนีลำแข้งคู่แข่ง แล้วหวดบอลพุ่งเสียบตาข่ายทางเสาแรก แถมจังหวะถัดมา แฮร์รี่ วิลสัน เข้าทำฟาวล์แรงใส่ โยอาคิม เมห์เล่ ถูกใบแดงไล่ออกโดยทันที

ทดเจ็บนาทีที่ 90+3 มาร์ติน เบรธเวท ส่งบอลเข้าสู้ก้นตาข่ายอีกลูก แต่สตาร์บาร์ซ่าถูกเป่าล้ำหน้า เชิ้ตดำเช็ควีเออาร์เพื่อความถูกต้องแน่ใจ แล้วกลับคำพูดวินิจฉัยให้เป็นประตูของเดนมาร์กอีกเม็ด จบเกมกระหน่ำ เวลส์ เละเทะ 4-0 รอคอยพบผู้ชนะระหว่าง ฮอลแลนด์ กับ สาธารณรัฐเช็ก ถัดไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสู่สนาม เวลส์ (4-2-3-1): แดนนี่ วอร์ด,คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ (เนโก วิลเลี่ยมส์ น.41),โจ โรดอน,คริส เมแพม,เบน เดวิส,โจ มอร์เรลล์ (แฮร์รี่ วิลสัน น.59),โจ อัลเลน,แดเนี่ยล เจมส์ (เดวิด บรูคส์ น.78),แอรอน แรมซี่ย์,แกเร็ธ เบล,คีฟเฟอร์ มัวร์ (ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ น.78)

เดนมาร์ก (3-4-3): แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล,อันเดรียส คริสเตนเซ่น,ซิม่อน เคียร์ (โยอาคิม อันเดอร์เซ่น น.77),ยานนิค เวสเตอร์การ์ด,เยนส์ ลาร์เซ่น (นิโคไล บอยเลเซ่น น.77),ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก,โธมัส เดลานี่ย์ (มาธิอัส เยนเซ่น น.60),โยอาคิม เมห์เล่,มิคเกล ดามส์การ์ด (คริสเตียน นอร์การ์ด น.60),แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก (อันเดรียส คอร์เนลิอุส น.69),มาร์ติน เบรธเวท อิตาลีแกร่งสมราคา