เกมรุกแย่สุด เปิดสถิติในแต่ละด้านของ อาร์เซน่อล ในช่วงฤดูกาลนี้ ภายหลัง “ปืนใหญ่” กำลังอยู่ในตอนผลงานย่ำแย่สม่ำเสมอแพ้ผู้ใด 4 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก

เกมรุกแย่สุด พร้อมด้วยตกมารั้งที่ 15 ของตาราง รวมทั้งมีแต้มห่างโซนตกชั้นเพียงแต่ 7 คะแนนแค่นั้น ซึ่งถือเป็นการออกตัวตอน 10 เกมแรกที่ย่ำแย่สุดของสมาพันธ์ นับจากฤดูกาล 1981/82

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชเพิ่งพาทีมบุกไปแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดปัจจุบัน ซึ่งทำให้ตอนนี้อดีตผู้ช่วย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังพบกับสถานการณ์กดดันอย่างมาก นอกจากผลงานที่ไม่สู้ก็ดีแล้ว สไตล์การเล่นของกลุ่มยังน่าผิดหวังตามไปด้วย

เกมรุกแย่สุด

ฤดูนี้ปัญหาหลักของ อาร์เซน่อล เป็นแนวรุกที่ประสบปัญหาอย่างสม่ำเสมอจนถึงทำให้กลุ่มยิงไปเพียงแต่ 10 ประตูแค่นั้นในพรีเมียร์ลีก โดยมีเพียงแค่ เบิร์นลีย์, เวสต์ บรอมวิชฯ แล้วก็ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เพียงแค่นั้นที่ยิงได้น้อยกว่าซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในโซนตกชั้นทั้งปวง ผลฟุตบอล

พยายามจะให้อีกทั้ง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ แล้วก็ นิโกล่าส์ เปเป้ หรือ วิลเลียน จะเป็นสามผสานแนวรุกที่จะสร้างความอันตรายให้กับแนวรับคู่แข่ง แต่ผลงานกลับไม่เป็นอย่างความคาดหวังเอาไว้ โดยสิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่การผลิตจังหวะแนวทางการทำประตูต่อเกมที่ “ปืนใหญ่” มีค่าเฉลี่ยเพียงแต่ 9.6 ครั้งต่อเกมเพียงแค่นั้น ซึ่งนับว่าเป็นสถิติ ที่น้อยสุดเป็นชั้น 4 ในพรีเมียร์ลีก มากยิ่งกว่า คริสตัล พาเลซ (9.4), เบิร์นลีย์ (9.2) แล้วก็ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (8.5) กัปตันแม็กไกวร์

นอกจากนี้จากจังหวะการยิงทั้งหมดทั้งปวงนั้น อาร์เซน่อล ยังมีค่าเฉลี่ยยิงตรงกรอบเพียงแต่ 3.1 ครั้งต่อเกมเพียงแค่นั้น ซึ่งเมื่อมองจากสถิติกลุ่มนี้แล้วไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่าทำไม “เดอะ กันเนอร์ส” ถึงทำประตูคู่แข่งได้น้อยนิด

ถึงแม้เกมรุกของกลุ่มนั้นจะฝืดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าตั้งแต่แมื่อที่ อาร์เตต้า เข้ามาจับบังเหียนนั้น อาร์เซน่อล มีพัฒนาการสำหรับเพื่อการส่งบอลรวมทั้งการครองบอลที่ดียิ่งขึ้น โดยมีสถิติส่งบอลแม่นถึง 85 เปอร์เซ็นต์ตลอดทั้งฤดูสำหรับเพื่อการลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติดีสุดชั้น 4 ในพรีเมียร์ลีก แต่มันก็ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าจะส่งบอล ครอบครองบอลได้มาก แม้กระนั้นขาดความสร้างสรรค์เกมสำหรับเพื่อการเจาะแนวรับคู่ปรปักษ์เข้าไปลุ้นทำแต้ม

ในขณะที่การครอสบอลให้แนวรุกลุ้นทำแต้มนั้นก็ เป็นอีกหนึ่งแท็คติกที่ นำมาใช้มากขึ้น ย้อนไปในเกมกับ สเปอร์ส นั้น อาร์เซน่อล มีตัวเลขเปิดบอลจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ถึง 32 ครั้ง แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะเจาะประตูแนวรับ “ไก่เดือยทอง” ได้เลย ขณะที่ในเกมที่แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน พวกเขาได้โอกาสครอสบอลถึง 33 ครั้ง แล้วก็สามารถทำเป็นหนึ่งประตู

อาร์เตต้า นั้นถูกตั้งคำครหาว่าเขาย้ำที่จะให้กลุ่มเน้นย้ำเกมรับมากจนเกินไป กระทั่งส่งผลให้เกมรุกของกลุ่มจำต้องเจอปัญหาในหัวข้อการทำคะแนน

ฤดูนี้  เสริมผู้เล่นเกมรับเข้ามาหลายๆคน โดยเฉพาะ กาเบรียล มากัลเญส เซ็นเตอร์ชาวบราซิล รวมทั้ง โธมัส ปาร์เตย์ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมชาวกาน่า ซึ่งพวกเขาก็มาช่วยไขเกมรับให้แน่นขึ้นทำให้ มีสถิติการปกป้อง ดีที่สุดเป็นชั้น 4 ในพรีเมียร์ลีกขณะนี้จากการเสียไป 14 ประตูจาก 11 เกม แม้กระนั้นมันก็มีผลไปถึงการเจาะ ประตูคู่ปรปักษ์ เมื่อยิงได้เพียงแต่ 10 ประตูเพียงแค่นั้น

เกมรุกแย่สุด

สถิติการเล่น เกมรับของ  ในภาพรวมนั้นดูเหมือน จะดียิ่งขึ้นก็จริง โดยมีค่าเฉลี่ยเสียประตูที่ 0.8 ลูกต่อเกมในตอน 15 เกมแรกนับจากที่เขาเข้ามารับตำแหน่งแทน อูไน เอเมรี่ ที่เคยมีค่าเฉลี่ยการเสียประตูที่ 1.45 ประตูต่อเกมอย่างยิ่งจริงๆ โดยในยุคของ เอเมรี่ นั้น อาร์เซน่อล มีค่าเฉลี่ยโดนคู่แข่ง ส่องประตูอยู่ที่ 14.1 ครั้งต่อเกม ส่วน อาร์เตต้า นั้นอยู่ที่ 11.8 ครั้งต่อเกมเพียงแค่นั้น

อย่างไรก็ตามถ้าหากเจาะ ลึกมองสถิติ ของทั้งคู่กุนซือทำให้เห็นว่าคู่ปรับในพรีเมียร์ลีกได้โอกาสที่จะทำแต้มใส่ ในสมัยของ มากยิ่งกว่า จากค่าถัวเฉลี่ย 10.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากยิ่งกว่าในสมัย เอเมปรี่

ที่เคยมีค่าเฉลี่ยเพียงแค่ 9.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนั่นนับว่าบรรดากลุ่มคู่ปรับ สามารถเจาะประตู ในสมัยของ อาร์เตต้า โดยใช้จังหวะในการทำคะแนนได้น้อย กว่าในสมัยของ เอเมรี่ นั่นเอง

มิเกล ผู้จัดการทีมชาว สแปนิชของ เปิดใจเกี่ยวกับผลงาน ของกลุ่มแล้ว ก็การบาดเจ็บของ โธมัส ปาร์เตย์ ในเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา

สเปอร์ส ได้สองประตูจาก ซน ฮึง-มิน กับ แฮร์รี่ เคน ในตอนครึ่งแรก ในขณะช่วงหลัง “ไก่เดือยทอง” เล่นแบบประคองตัวปลดปล่อยให้ “ไอ้ปืนใหญ่” ได้ครอบครองบอลเหนือกว่า แม้กระนั้นไม่สามารถ เจาะเข้าไป สร้างความอันตราย ให้เกมรับเจ้าของบ้าน จบเกม จำต้องกลับบ้าน พร้อมด้วย ความเจ็บช้ำน้ำใจ รวมทั้งเวลานี้พวกเขารั้งอยู่ในชั้น 15

เปิดใจว่า “พวกเราจำต้องทำ ประตูให้ได้ ฟอร์มยัง ขาดความแน่ชัด พวกเราจำต้องจ่ายบอลเข้า ไปซุกที่ตูดตา ข่ายให้เร็วที่สุด สำหรับ โธมัส เขามีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บมากมายๆมันเป็นอาการเจ็บรอบๆเดิม ผมมานะที่จะบีบคั้นเขา (กลับไปลงสนาม) ด้วยเหตุว่าใน ตอนนั้นผมไม่คิดว่า เขาจะมีอาการ เจ็บร้ายแรงในเหตุการณ์นั้น”

“ผมได้เห็นทีมที่ เต็มไปด้วย ความจริงจัง, กลุ่มที่ครองเกมได้ตลอด แล้วก็สร้างช่องทางได้โดยตลอด แต่ว่าในที่สุด แล้วพวกเราไม่สามารถที่จะจบสกอร์ได้ รวมทั้งโน่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้ขึ้นไปรั้งตำแหน่ง หัวหน้าฝูง ส่วนพวกเราผมรู้สึกว่าได้โอกาสเปิดบอลถึง 44 ครั้งแม้กระนั้นไม่สามารถ เปลี่ยนเป็นประตูได้”